มุ่งมั่นผลิตมหาบัณฑิตที่มีความรู้ ความสามารถด้านการพัฒนาท้องถิ่นพร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสาธารณะ พัฒนาองค์ความรู้ เชิดชูศักยภาพชุมชนและสังคม
โลกยุคปัจจุบันมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกๆด้าน โดยเฉพาะ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งนำไปสู่ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ หรือความเจริญทางวัตถุต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบทางลบที่ติดตามมา ซึ่งจะทำให้โลกประสบวิกฤติการณ์ในด้านต่างๆ อย่างรุนแรงทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ การเมือง สังคม วัฒนธรรม การศึกษา ศาสนา สิ่งแวดล้อม และพลังงาน ซึ่งในเรื่องนี้ นักวิชาการที่มีชื่อเสียงโด่งดังท่านหนึ่ง คือ แซมมวล ฮันติงตัน (Sammuel Huntington) ถึงกับเตือนว่า หากชาวโลกไม่มีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ (Paradigmshift) แล้วโลกก็จะเห็นกาลวิบัติเป็นแน่แท้
ด้วยเหตุนี้ การพัฒนาในทุกระดับตั้งแต่ระดับท้องถิ่นจนไปถึงระดับโลก จะต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ให้เป็นการเน้นการใช้กระบวนทัศน์แบบองค์รวม (Holistic Paradigm) ที่มองปัจจัยต่างๆ แบบปฏิจจสมุปบาท กล่าวคือการวิเคราะห์สาเหตุปัจจัยต่างๆของสังคมตลอดจนการพัฒนาอย่างลึกซึ้งและรอบด้าน ทั้งนี้ ต้องอาศัยศาสตร์ต่างๆ ของสาขา หรือเรียกว่า สหวิทยาการมาใช้วิเคราะห์การพัฒนา เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ดังนั้น การพัฒนาประเทศ ในทุกระดับจึงต้องอาศัยบุคลากรที่มีวิสัยทัศน์แบบองค์รวม มีความรอบรู้บริบทของการเปลี่ยนแปลง ด้านต่างๆ รวมทั้งความรู้ความเข้าใจอย่างรอบด้านในแนวทางการพัฒนาเชิงสหวิทยาการ
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาแล้วข้างต้น การผลิตมหาบัณฑิตสาขาวิชาการพัฒนาชุมชนและสังคม จึงมุ่งพัฒนาบุคคลแห่งการเรียนรู้ที่มีศักยภาพในการแสวงหาความรู้ในศาสตร์ต่างๆ ตระหนักในความสำคัญการพัฒนาชุมชนและสังคม จึงที่อยู่บนฐานของความรู้และการวิจัย มีความเป็นผู้นำในการบริหารจัดการการพัฒนาโดยอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในสังคม โดยมีเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและพอเพียงสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นและการเปลี่ยนแปลงของสังคมรวมทั้งการมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีจิตอาสาที่เห็นประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นที่ต้องพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการดังกล่าวต่อไป
การผลิตหลักสูตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาชุมชนและสังคม เป็นการผลิตกำลังคนในระดับสูงเพื่อตอบสนองความต้องการในการพัฒนาคุณภาพของบุคลากรใน ท้องถิ่น องค์กร สังคม ทั้งภาครัฐและเอกชน เนื่องจากสถานการณ์โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งสถานการณ์ภายในประเทศก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมากดังกล่าว ดังนั้นมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จึงปรับปรุงเปลี่ยนแปลง โดยเน้นการเรียนการสอนเกี่ยวกับความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งภายในและต่างประเทศที่ส่งผลกระทบต่อสังคมไทยในปัจจุบัน เพื่อการพัฒนาบุคคลให้มีความพร้อม รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง วัฒธรรรม สิ่งแวดล้อม การศึกษา ศาสนาและพัฒนาความรู้ ความสามารถ โดยเฉพาะความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และความรู้เกี่ยวกับบริบท/สถานการณ์โลกและสถานการณ์ภายในประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้ผู้สำเร็จการศึกษามีความสามารถในการเข้าสู่ตลาดแรงงานในยุคของการแข่งขันปัจจุบันได้อย่างมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดการพัฒนาคน องค์กร ชุมชน ท้องถิ่น สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน>
เป้าหมายของการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGS) คือ 1. ด้านสังคมความเป็นอยู่ของผู้คน 2. ด้านเศรษฐกิจและความมั่งคั่ง 3. ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 4. ด้านสันติภาพ 5. ด้านหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา ด้วยเหตุนี้ หลักสูตรการจัดการลัพัฒนาทรัพยากรจึงเป็นหลักสูตรจึงมุ่งผลิตมหาบัณฑิตโดยยึดเป้าหมายดังกล่าว อีกทั้งมุ่งที่จะฟื้นฟูภูมิปัญญาท้องถิ่น ขนบธรรมเนียมประเพณี และทุนทางปัญญา ควบคู่ไปกับการประยุกต์ใช้วิทยาการสมัยใหม่ต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาสังคมไทยไปสู่ Thailand 4.0
โดยภาพรวม หลักสูตรการพัฒนาชุมชนและสังคม เน้นการจัดการศึกษาในรูปแบบ Disruptive Teacher ที่ส่งเสริมให้มหาบัณฑิตสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยวิธีวิทยาการวิจัย มีคุณธรรม จริยธรรมและมีวิสัยทัศน์ในการคิดสร้างสรรค์ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และงานอิสระในระดับสูงทุกประเภทและให้มีความพร้อมด้านมาตรฐานความรู้ ประสบการณ์ในสาขาอาชีพ เพื่อให้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปทำหน้าที่ในการพัฒนาองค์กร ชุมชน ท้องถิ่นสังคม ประเทศชาติให้มีคุณภาพก้าวสู่มาตรฐานสากลโดยประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเชื่อมโยงศาสตร์ต่าง ๆ กับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 (ปี พ.ศ. 2565-2569) โดยมีเป้าหมายก็คือการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยนำภูมิปัญญาท้องถิ่นทุนทางวัฒนธรรมและทุนทางสังคม มาร่วมใช้แก้ปัญหาและพัฒนาท้องถิ่นและประเทศชาติโดยรวมต่อไป
แผน ก แบบ ก1 เป็นแผนการศึกษาที่เน้นการวิจัยโดยมีการทำวิทยานิพนธ์ จำนวน 36 หน่วยกิต ประกอบด้วย | ||
- รายวิชาวิทยานิพนธ์ ให้เรียน | 24 | หน่วยกิต |
- รายวิชาเสริม ให้เรียน (ไม่นับหน่วยกิต) | 6 | หน่วยกิต |
- รายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับบัณฑิตศึกษา* ให้เรียน | 3 | หน่วยกิต |
- รายวิชาทฤษฎีทางสังคมศาสตร์กับการพัฒนาชุมชนและสังคม** ให้เรียน (ไม่นับหน่วยกิต) | 3 | หน่วยกิต |
แผน ก แบบ ก2 ทำวิทยานิพนธ์และศึกษารายวิชาในหลักสูตร | ||
- รายวิชาบังคับ ให้เรียน | 24 | หน่วยกิต |
- รายวิชาบังคับ (ไม่นับ นก.) ให้เรียน | 1 | หน่วยกิต |
- รายวิชาวิทยานิพนธ์ ให้เรียน | 12 | หน่วยกิต |
- รายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับบัณฑิตศึกษา* ให้เรียน | 3 | หน่วยกิต |
- รายวิชาทฤษฎีทางสังคมศาสตร์กับการพัฒนาชุมชนและสังคม ** ให้เรียน | 3 | หน่วยกิต |
แผน ข เน้นการศึกษารายวิชาและทำการค้นคว้าอิสระ | ||
- รายวิชาบังคับ ให้เรียน | 24 | หน่วยกิต |
- รายวิชาบังคับ (ไม่นับ นก.) ให้เรียน | 1 | หน่วยกิต |
- รายวิชาเลือก ให้เรียน | 6 | หน่วยกิต |
- รายวิชาการค้นคว้าอิสระ ให้เรียน | 6 | หน่วยกิต |
- รายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับบัณฑิตศึกษา* ให้เรียน | 3 | หน่วยกิต |
- รายวิชาทฤษฎีทางสังคมศาสตร์กับการพัฒนาชุมชนและสังคม ** ให้เรียน | 3 | หน่วยกิต |